Email to friend
* Your name:
* Your email:
* Friend's email:
Comment:


ความรู้เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์

1.   อาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เมื่อทำการเปิดเครื่องแล้วเกิดอาการ restart ตัวเอง   ตลอดเวลานั้นมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง   และมีวีธีการแก้ไขอย่างไร   ให้วิเคราะห์ถึงอาการเสียที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแนวทางแก้ไข

-สาเหตุเป็นไปได้หลายอย่าง ทั้ง Software และ Hardware แต่น่าจะเป็นที่ Hardware มากกว่า
1. Harddisk หยุดหมุนเนื่องจาก Power Supply จ่ายไฟให้ไม่พอ เลยดับ
2. Mainboard มีปัญหา หรืออุปกรณ์ต่างๆที่เสียบอยู่ไม่แน่น ชำรุดเสียหาย
3. Windows System ไฟล์วินโดวส์มีปัญหา ไม่สมบูรณ์ หรือ System อาจถูก Virus Protected


-วิธีการแก้ไขปัญหา(เบื้องต้น)
    1. เช็คและตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นให้ดี ว่าเสียบสายถูกไหม? เสียบเข้าล๊อคแน่นดีรึเปล่า?
    2. สังเกตให้ทั่วบอร์ดว่ามีอุปกรณ์ชิ้นใดอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์บ้างรึเปล่า? ถ้ามีของเปลี่ยนให้ลองเปลี่ยนดู
    3. ถ้ามี Hardware ทำงานร่วมกันเยอะมากๆ Power Supply กำลังไฟต่ำๆจะจ่ายไฟไม่พอ ให้ลองถอดบางชิ้นออก
    4. ลองเข้า Safe Mode กดF8 ตอนบู๊ตเครื่อง เลือก Safe Mode แล้วใช้ System Restore หลังจากนั้น
แสกนไวรัส สปายแวร์ ฆ่าให้เกลี้ยง ถ้ามันเอาไม่ออกหรือติดเข้าไปใน System ให้ทำการ Format ลง OS ใหม่

 

2.   การเกิดจอน้ำเงิน   blue screen นั้นเกิดจากสาเหตุใดบ้างและสาเหตุที่เกิดนั้นมีทางแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

-สาเหตุที่ทำให้เกิด BSOD ไล่จากเล็กน้อยจนถึงขั้นสาหัสได้ 5 สาเหตุใหญ่ๆ

1. สาเหตุจากโปรแกรม (Software Errors) โปรแกรมบางอย่างที่นำมาติดตั้งบน เครื่องอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโปรแกรมจำพวก Spy ware, virus หรือไม่ก็โปรแกรมที่เป็น BETA TEST ที่ให้ ดาวน์โหลดฟรี

2. สาเหตุมาจากฮาร์ดแวร์ (Hardware Errors) ฮาร์ดแวร์เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องเกิดปัญหาได้ หากฮาร์ดแวร์ตัวนั้นไม่สามารถทำงานร่วมกับวินโดวส์ XP ได้อย่างสมบูรณ์

3. สาเหตุจากการติดตั้งโปรแกรม (In- stallation Errors) หากกำลังติดตั้งโปรแกรม เพื่อใช้ดูหนัง แต่เกิดไฟดับก่อนที่จะติดตั้งเสร็จ เครื่องคุณยังไม่ได้ติด UPS ซะด้วย ในการติดตั้งนั้นย่อมมีไฟล์ของโปรแกรมบางส่วนถูกก๊อปปี้ลงบนฮาร์ดดิสก์ของเราแล้ว ไฟล์เหล่านี้ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องของคุณเกิดปัญหาได้

4. สาเหตุจากการบูตเครื่อง (Startup Errors) เมื่อกดปุ่ม power เพื่อเปิดเครื่อง ระบบจะมีลำดับขั้นตอนในการ Detect อุปกรณ์สามอย่างก่อนก็คือ การ์ดจอ จากนั้นก็มาที่ แรม แล้วก็ ฮาร์ดดิสก์ ตามลำดับ และโหลดไฟล์จากฮาร์ดดิสก์ไปเก็บไว้ที่แรม หากขั้นตอนใดมีการผิด พลาด ก็จะทำให้เกิด BSOD ได้เช่นกัน

5. สาเหตุที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา (Intermittent Errors) เป็นปัญหาที่ยากลำบากที่สุดในการแก้ไข เพราะอาจจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ได้ เช่น ความร้อนของซีพียู หรือปัญหาเกี่ยวกับแรม

-วิธีการแก้ปัญหา

                        หากเกิด BSOD และไม่สามารถใช้งานวินโดวส์ในโหมดปกติได้ ให้รีสตาร์ทเครื่อง จากนั้นกด F8 (แล้วให้กด F8 ซ้ำๆ) เครื่องของคุณจะเข้ามาใน Safe Mode
            สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อเข้ามาใน Safe Mode แล้ว ก็คือ การค้นหาโปรแกรมที่ชื่อแปลกๆ หรือไม่คุ้นเคยซึ่งโปรแกรมเหล่านั้นอาจเป็นโปรแกรมจำพวก Spy ware ให้คุณ Uninstall ออกไป จากนั้นสแกนไวรัสที่อาจอยู่ในเครื่องของคุณ
            แต่ถ้ายังมีอาการอยู่ ให้กลับมาที่ Safe Mode อีกครั้ง ไมโครซอฟท์ได้สร้าง Utilities ตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายๆ กับ Time machine สำหรับการย้อนเวลากลับไปยังจุดที่เครื่องสามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา
            โดยการเลือกที่ Start>all program>accessories> system tools>system restore จะปรากฏหน้าต่าง System Restore ขึ้นมา
            ให้เลือกที่ restore my computer to an earlier time และคลิกปุ่ม Next จะปรากฏหน้า ที่เรียกว่า Select a Restore Point เพื่อให้เลือกจุดที่จะย้อนกลับไป วิธีการที่จะ Restore นั้นง่ายมาก เพียงแค่คลิกที่เลือกวันในปฏิทินที่ปรากฏที่หน้าต่างด้านซ้าย โดยวันที่สามารถเลือกได้นั้นจะต้องเป็นตัวอักษรที่มีลักษณะเข้มเท่านั้น จากนั้นตอบ Next ไปเรื่อยๆ เครื่องก็จะรีสตาร์ท และ Restore ระบบให้กับคุณ

 

3.   เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เมื่อเราใช้งานไปแล้วเกิดอาการค้างหรือที่เราเรียกว่าเครื่อง แฮงค์ เกิดจากสาเหตุใดได้บ้างให้นักศึกษาทำการอธิบาย

-  เกิดจากการทำงานไม่ทันของการประมวลผล โดยมีสาเหตุมาจาก การขัดจังหวะการทำงานของโปรแกรมในระหว่างที่โปรแกรมนั้นยังทำงานไม่เสร็จสมบูรณ์ และ การเปิดโปรแกรมขึ้นมามากจนเครื่องประมวลผลไม่ทัน

วิธีแก้ไข

ให้ทำการกดปุ่ม ctrl+alt+delete พร้อมกัน เพื่อทำการ end task(ปิด) โปรแกรม หรือ หากควบคุมไม่ได้ให้ทำการรีสตาร์ทเครื่อง

 

4.     เครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อทำการกดปุ่มเพาเวอร์แล้วพัดลมทำงาน เพาเวอร์ซัพพลายทำงานแต่ไม่สามารถทำการboot ระบบได้ อาการข้างต้นนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์เกิดจากอุปกรณ์ใดเสียหรือเกิดจากการทำงานผิดพลาดของโปรแกรมใด

-          เกิดจากแรมเสียหรือเครื่องมองไม่เห็นแรม

-          เกิดจาก bios ทำงานผิดพลาด

วิธีแก้ไข

-ให้ทำการถอดแรมออกมาขัดหน้าสัมผัสด้วยยางลบแล้วทำการเสียบแรมเข้าไปใหม่

-ให้ทำการถอด bios ออกแล้วเปิดเครื่องจากนั้นให้ทำการใส่ bios เข้าที่เดิม

 

5.    เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มียีห้อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราทำงานสั่งประกอบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรและถ้าท่านต้องเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนในระดับมัธยมปลายท่านจะแนะนำอย่างไรในกรเลือกให้กับน้องๆ  

-เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นยี่ห้อ จะมีการจัดสเป๊คมาแล้วเรียบร้อย พอเราต้องการซื้อก็น่าที่จะไปเลือกซื้อได้เลย  และข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ  การซื้อคอมที่มียี่ห้อนั้นพอเครื่องของเรามีปัญหาเราสามารถที่จะนำไปเข้าซ่อมที่ศูนย์ได้ทันทีเพราะ จะมีการรับประกันอยู่    แต่ถ้าเป็นแบบที่เราต้องมาเลือกซื้อเองนั้นผู้ต้องมีความรู้เรื่องคอมด้วย  แต่ถ้าเราเรื่องคอมหรือมีผู้รู้ไปกับเราด้วยเราก็จะได้คอมที่มีประสิทธิภาพอย่างที่เราต้องการและมีราคาถูกกว่าด้วย

 

6.     การใช้งาน Disk Cleanup สำหรับลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจาก ฮาร์ดดิสก์

1. คลิกที่ Start > Program > Accessories > System Tools > Disk Cleanup

2. เลือกไดร์ฟที่ต้องการทำ Disk Cleanup แล้วคลิก OK

3. คลิกเครื่องหมายถูกไฟล์ที่ต้องการลบ แล้วคลิก OK

4. ยืนยันการลบคลิก Yes

ทำอย่างนี้ในทุก ๆ ไดร์ฟที่ต้องการลบ

 

7.     การใช้งาน Scan Disk สำหรับตรวจสอบข้อผิดพลาดของ ฮาร์ดดิสก์

1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาไดร์ฟที่ต้องการทำ Scan Disk เลือก Properties

2. คลิกที่แท็บ Tools จากนั้นคลิกที่ Check Now…

3. คลิกเครื่องหมายถูกที่ Scan for and attempt recovery of bad sectors แล้วคลิก Start

4. รอสักครู่เครื่องจะทำการ Scan Disk

5. เมื่อเครื่องทำการ Scan Disk เสร็จก็จะรายงานได้ทราบ ให้คลิก OK

หมายเหตุ
ขณะที่ทำการ Scan Disk ไม่ควรเปิดโปรแกรมใด ๆ
• Automatically fix errors เป็นการกำหนดให้ทำการแก้ไขปัญหาที่พบโดยอัตโนมัติ เมื่อพบข้อผิดพลาดขึ้น

 

8.     การ Defrag ฮาร์ดดิสก์ เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของระบบ

                1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาไดร์ฟที่ต้องการทำ Defragment เลือก Properties

2. คลิกที่แท็บ Tools จากนั้นคลิกที่ Defragment Now...

3. คลิกที่ Defragment

4. จากนั้นให้รอ เครื่องจะทำการ Defragment ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน

5. เมื่อเครื่อง Defragment เสร็จเครื่องจะแจ้งให้ทราบถ้าต้องการดูรายละเอียดต่าง ๆ ของการ Defragment ให้คลิกที่ View Report ถ้าไม่ต้องการก็ให้คลิกที่ Close

หมายเหตุ
การทำ Defragment ให้ทำการ Disk Cleanup และ Scan Disk ก่อน ถ้าทำไม่ผ่านให้ทำใน Saft Mode