หากจะเปรียบสิ่งก่อสร้างบนโลกใบนี้กับคนบนโลกใบนี้แล้ว แต่ละสิ่งก่อสร้างหรือแต่ละคนย่อมจะต้องมีความแตกต่างกันไม่มาก็น้อย ยกตัวอย่างเช่น คนไทยหน้าตาไม่เหมือนคนแอฟริกาเลย (สาวไทยบางคนเจอคนแอฟริกาก็บอกว่าไม่ชอบ บางคนก็บอกว่าเป็นสเป๊ก ตามแต่ความคิดของแต่ละคน) คนยุโรปเขาบอกว่าเป็นประเทศพัฒนา สภาพตึกของเขาก็ดูทันสมัย แต่พอคนยุโรปมาเห็นวังไทย บางคนก็บอกว่าสวยงาม Amazing ก็แสดงว่าความทันสมัยในนิยามของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือหากสิ่งนั้นไม่เหมือนกับที่เขาเคยพบเคยเห็นแล้ว เขาก็จะบอกตัวเองว่า “แปลกตาดี” ส่งผลให้เกิดความประทับใจได้มากกว่าสิ่งที่เคยเห็นเป็นประจำนั้นเอง วันนี้ก็เลยจะนำภาพตึกบางตึกบนโลกเรา ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของชาตินั้นๆ ได้ เพื่อให้เห็นว่าความทันสมัยที่สามารถสะท้อนความเป็นตนเองยังได้รับความสำคัญบนโลกใบนี้นั้นเอง
โรงอาบน้ำวิคตอเรีย (Victoria Baths) อาคารทรงเอ็ดวาร์เดียน บนถนน Hathersage Road ภายในบริเวณ Victoria Park ซึ่งเป็นที่อยู่ของ Victoria Baths เป็นประดุจอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมอันทรงค่าของแมนเชสเตอร์ โรงอาบน้ำแสนสวยที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวแมนเชสเตอร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1906
รัฐสลังงอ ประเทศมาเลเซีย ถ้าตึกแฝดเปโตรนาสเป็นสัญญลักษณ์ของ KLในวันนี้ยอดโดมบนหอนาฬิกาสูง 40 เมตร เหนืออาคารสุลต่านอับดุลซามัด ก็คือสัญญลักษณ์ของKLสมัยอาณานิคมผู้ปกครองชาวอังกฤษต้องการหว่านเมล็ดพันธ์ของอารยธรรมแบบยุโรปในKL และมอบหมายให้สถาปนิกแอนโทนี นอร์มัน(AnthonyNorman)ออกแบบอาคารศูนย์กลางการปกครองของอาณานิคมตอนแรกนอร์มันเสนอแบบอาคารทรงนีโอคลาสสิคเรอเนสซองซ์ที่เป็นยุโรป แต่ถูกติงว่ามันควรสะท้อนศรัทธาในศาสนาอิสลามของชาวมาเลย์สักหน่อย นอร์มันจึงจัดแจงเสริมโดมหัวหอม ระเบียงเสาและรายละเอียดอื่นๆที่หยิบยืมจากอินเดียเข้าไปให้อาคารสื่อถึงความเป็นตะวันออก ตึกอีกหลายแห่งที่สร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมก็ได้อิทธิพลการผสมผสานตามแบบอาคารสุลต่านอับดุลซามัด จนกลายมาเป็นความโดดเด่นของ KL
อาคารทำการวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ที่ถูกออกแบบโดยผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นมลายูของประชาชนในพื้นที่ของที่ตั้งวิทยาเขตปัตตานี ในรูปมีการนำโดมและลวดลายแบบอาหรับมาตกแต่งให้เข้ากับสภาพของตึกที่มีความทันสมัยในตัวเองได้เป็นอย่างดี จึงทำให้อาคารมีความโดดเด่นในอีกรูปแบบหนึ่ง
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เป็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและสถาปัตยกรรมยุโรป โดยตัวอาคารพระที่นั่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป แต่หลังคาพระที่นั่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย
ศาลาประชาคมเมืองฮะโคะดะเตะหลังเก่า ประเทศญี่ปุ่น เดิมเป็นอาคารแบบตะวันตกสะท้อน สถาปัตยกรรมในยุคล่าอณานิคม แต่ประสบกับไฟไหมครั้งใหญ่ ทำให้ต้องสร้างขึ้นใหม่ในสมัยเมจิ กลายเป็นอาคารไม้ในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกกับญี่ปุ่น สวยคลาสสิคด้วยผนังสีฟ้าอมเทาตัดกับสีเหลือง เห็นสะดุดตาแต่ไกล ภายในงดงามด้วยหินอ่อนประดับโคมระย้า บนชั้นสองมีห้องบรรทมของสมเด็จพระจักรพรรดิ์ไทโฌที่เคยเสด็จมาประทับด้วย