|
|
|
|
|
|
|||||
ในโลกยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนวัตกรรม ความสามารถในการวิจัยกลายเป็นหนึ่งในทักษะหลักที่จำเป็นสำหรับนักศึกษาในศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นในสายวิชาการหรือสายวิชาชีพ การที่นักศึกษาสามารถคิดอย่างเป็นระบบ ตั้งคำถามอย่างมีวิจารณญาณ และสร้างองค์ความรู้ใหม่จากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง การสร้างนักศึกษาให้เป็นนักวิจัยนับเป็นภารกิจสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศในระยะยาว เพราะการวิจัยเป็นกระบวนการที่ช่วยส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล การตั้งคำถาม การสืบค้นข้อมูล และการสรุปผลอย่างมีหลักการ นักศึกษาที่มีทักษะด้านการวิจัยจะสามารถมองเห็นปัญหาในสังคมได้อย่างลึกซึ้ง มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ยึดติดกับความเชื่อแบบเดิม และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้อย่างสร้างสรรค์ในชีวิตจริง นอกจากนี้ การฝึกให้นักศึกษาเป็นนักวิจัยยังช่วยเสริมสร้างทักษะด้านการสื่อสาร การเขียนรายงาน การนำเสนอผลงาน และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งล้วนแต่เป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องการบุคลากรที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่เพียงเก่งวิชาการแต่ต้องคิดเป็น ทำเป็น และสื่อสารเป็นด้วย อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกด้านจริยธรรมทางวิชาการและความซื่อสัตย์ในกระบวนการแสวงหาความรู้ เมื่อสถาบันการศึกษาส่งเสริมนักศึกษาให้เป็นนักวิจัย ย่อมมีส่วนในการสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อบริบทของประเทศ และช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน นักศึกษาที่ผ่านกระบวนการวิจัยจึงไม่ใช่เพียงผู้รับความรู้ แต่เป็นผู้ผลิตความรู้ และสามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ในภาคการศึกษา พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในกระบวนการวิจัยที่แท้จริง มองการทำวิจัยเป็นเพียงภาระที่ต้องทำให้เสร็จเพื่อจบหลักสูตร มากกว่าการมองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ฝึกคิด และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งสถาบันการศึกษาบางแห่งยังขาดระบบสนับสนุนที่เหมาะสม เช่น การให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด แหล่งทุนสนับสนุนงานวิจัย หรือกิจกรรมเสริมที่จุดประกายความคิดวิจัย ทำให้การพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยของนักศึกษายังไม่เต็มศักยภาพเท่าที่ควร เพื่อยกระดับคุณภาพของบัณฑิตให้สามารถเป็นผู้ผลิตองค์ความรู้ ไม่ใช่เพียงผู้รับข้อมูล และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ การพัฒนาแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการสร้างนักศึกษาให้เป็นนักวิจัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แนวทางดังกล่าวควรครอบคลุมตั้งแต่การปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการวิจัย การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมกระบวนการคิดเชิงวิจัย การมีที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยงวิจัยอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงการสร้างแรงจูงใจและเวทีแสดงผลงาน เพื่อให้นักศึกษาเกิดความภาคภูมิใจในบทบาทของการเป็น "นักวิจัยรุ่นเยาว์" ดังนั้น การจัดทำแนวทางการสร้างนักศึกษาให้เป็นนักวิจัยผ่านกระบวนการจัดการความรู้ (KM) จึงเป็นภารกิจสำคัญที่สามารถนำไปสู่การยกระดับคุณภาพของนักศึกษา สถาบัน และในระยะยาว ยังเป็นการพัฒนาสังคมที่มีฐานคิดและฐานข้อมูลที่แข็งแรง อันเป็นรากฐานสำคัญของประเทศชาติในอนาคต |
|||||
|
||
| FSH_-5.pdf (291 kb) | ||




