กลุ่มการจัดการความรู้ เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่าความรู้เป็นทรัพยากรสำคัญที่สามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และหากได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ จะสามารถยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนและการบริหารจัดการสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทต่อกระบวนการเรียนรู้และการสื่อสารทางวิชาการ การจัดการความรู้จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้บุคลากรทางการศึกษา เช่น อาจารย์ ผู้บริหาร และนักวิชาการ สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ให้แก่กันและกัน เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและลดปัญหาความรู้ที่สูญหายจากการเปลี่ยนแปลงบุคลากรภายในสถานศึกษา
การสร้างเครือข่ายสถานประกอบการ มุ่งเน้นการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน แนวทางในการสร้างเครือข่ายนี้ ได้แก่ การจัดประชุมระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการเพื่อวางแผนความร่วมมือ การจัดโครงการฝึกงานหรือสหกิจศึกษา การร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรม หรือแม้แต่การพัฒนาหลักสูตรร่วม (Co-Curriculum Development) ที่ผู้ประกอบการเข้ามามีบทบาทในการเสนอแนะเนื้อหาและทักษะที่จำเป็นในโลกของการทำงานจริง การสร้างเครือข่ายเช่นนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรง แต่ยังเปิดโอกาสให้สถานประกอบการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระยะยาว
การจัดการความรู้และการมีเครือข่ายระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการก่อให้เกิดประโยชน์หลากหลาย ทั้งในด้านการพัฒนาทักษะของนักศึกษา ให้มีความพร้อมต่อการประกอบอาชีพ การสร้างโอกาสการเรียนรู้จากสถานการณ์จริง และการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ทันสมัยและตอบโจทย์สังคม นอกจากนี้ยังทำให้บุคลากรทางการศึกษามีโอกาสพัฒนาตนเองผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับภาคธุรกิจ ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมทางการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เครือข่ายเหล่านี้ยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้นักศึกษาเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ และสามารถมองเห็นเส้นทางอาชีพของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างบุคลากรคุณภาพที่สามารถขับเคลื่อนประเทศในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน แนวทางในการสร้างเครือข่ายสถานประกอบการ