หน้าแรก / การจัดการความรู้ / การจัดการความรู้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 / บัณฑิตวิทยาลัย / Grad Public KM / การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ
|
|
|||||
ขั้นตอนการนำวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล ที่มา: http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/TCI%20process.html 1. ศูนย์ TCI เปิดรับเอกสารสำหรับวารสารที่ต้องการเข้าสู่ฐานข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี 2. กองบรรณาธิการวารสารส่งตัวเล่มวารสารย้อนหลัง 3 ปี (นับจากปีปัจจุบัน) หรือ ตัวเล่มวารสารที่ตีพิมพ์ไม่น้อยกว่า 6 ฉบับ (กรณีวารสารที่ตีพิมพ์ไม่ถึง 3 ปี) พร้อมทั้งข้อมูลการบริหารจัดการวารสารแบบฟอร์มสำหรับการประเมินคุณภาพวารสารวิชาการไทยที่ต้องการเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI สำเนาผลการประเมินบทความของผู้ทรงวุฒิที่พิจารณาบทความย้อนหลัง 1 ปี (นับจากปีปัจจุบัน) มายังศูนย์ TCI วารสารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรุณาส่ง ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 126 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140 วารสารด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กรุณาส่ง ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ 10200 3. ศูนย์ TCI พิจารณาตัวเล่มวารสารตามเกณฑ์ในการคัดเลือกวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI 4. ศูนย์ TCI แจ้งผลการพิจารณากลับไปยังกองบรรณาธิการวารสาร ภายในต้นเดือนเมษายนของทุกปี 5. ศูนย์ TCI ดำเนินการบันทึกข้อมูลการตีพิมพ์และข้อมูลการอ้างอิงของวารสารที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก เข้าสู่ฐานข้อมูล TCI 6. ศูนย์ TCI จะประกาศค่า T-Journal Impact Factors (T-JIF) ทุกวันที่ 15 กรกฎาคมของทุกปี เกณฑ์การคัดเลือกวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI ที่มา: http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/quality_TCI57.html เทคนิคและวิธีการนำงานวิจัยลงวารสาร การตีพิมพ์เผยแพร่ ที่มา: http://rd.vru.ac.th/tech.pdf สามารถทาในรูปแบบใดบ้าง การเผยแพร่ตามสากลนิยมสามารถทาได้สองรูปแบบ ซึ่งมีจุดประสงค์ และระดับความยากและง่ายจะแตกต่างกัน การตอบรับให้ตีพิมพ์ (accept) การส่งกลับมาแก้ไข (revise) และการปฏิเสธ (reject) กรณีการส่งกลับมาแก้ไข (revise) มักจะมีกาหนดระยะเวลาให้ส่งกลับคืนด้วย อาจจะแนะให้ทาการ ทดลองเพิ่ม ให้แก้ไขต้นฉบับและ/หรือให้ตอบคาถามต่างๆ การแก้ไขอาจต้องทา 2-3 รอบซึ่งเมื่อแก้ไขแล้วมี โอกาสได้รับการตีพิมพ์มากกว่า 50% กรณีที่ถูกปฏิเสธ (reject) นักวิจัยอาจจะนามาแก้ไขตามที่ผู้อ่านพิจารณาผลงาน (reviewer) แนะนา ดาเนินการปรับรูปแบบและส่งไปวารสารอื่น เมื่อได้รับการตอบให้ตีพิมพ์ (accept) ทางวารสารจะจัดทาต้นฉบับที่เหมือนจริงในวารสารส่งให้ นักวิจัยตรวจทานอีกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาด นักวิจัยต้องรีบดาเนินการตรวจแก้ไขและส่งกลับคืนอย่าง คล้ายกับการประชุมวิชาการ ในปัจจุบันมีวารสารวิชาการจานวนมากที่เป็นสนามให้นักวิจัยตีพิมพ์ ผลงานวิจัย แต่คุณภาพและมาตรฐานของวารสารแต่ละเล่มจะแตกต่างกันไป มีตั้งแต่ระดับง่ายจนถึงยากมาก และใช้เวลาในการพิจารณาหลายเดือนถึงเป็นปี เปรียบเสมือนการประกวดนางงาม ผู้ประกวดสามารถเลือก เวทีได้ตั้งแต่ประเภทเทพีเงาะ มังคุด ไปจนกระทั่งถึงเวทีระดับนางสาวไทยหรือนางงามจักรวาล วิธีการสังเกตุ คุณภาพของวารสารก็มักดูที่ความเก่าแก่ สมาคมซึ่งเป็นผู้ดูแลการจัดพิมพ์ และอีกวิธีหนึ่งคือการพิจารณาจาก ดัชนีอ้างอิงของวารสารแต่ละฉบับว่าอยู่ในฐานข้อมูลใด อย่างไรก็ดีปัจจุบั นมีฐานข้อมูลอยู่เป็นจานวนมาก แยกกันไปตามบริษัทหรือหน่วยงานที่ให้บริการแต่ฐานข้อมูลซึ่งเป็นที่นิยมของนักวิจัยในปัจจุบันก็คือฐานข้อมูล ที่มีการคิดค่าดัชนีอ้างอิง (impact factor) ให้กับวารสารฐานข้อมูลที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและมีดัชนี อ้างอิง (จานวนครั้งเฉลี่ยของการอ้างอิงของบทความที่ตีพิมพ์ในแต่ละวารสาร) มีอยู่หลายแห่ง บางข้อมูลที่เป็น ของคนไทยคือ ดัชนีอ้างอิง Thailand Citation Index (TCI) ซึ่งดูแลโดยศูนย์อ้างอิงดัชนีวารสารไทยส่วน ฐานข้อมูลของต่างประเทศมีหลายแห่ง ได้แก่ ดัชนีอ้างอิง SCImago ซึ่งอยู่ในฐานข้อมูล Scopus ของบริษัท Elsevier และต้นตาหรับคือดัชนีอ้างอิง ISI ซึ่งเป็นของบริษัทยักใหญ่ผู้ให้บริการด้านข้อมูล คือ Thomson Reuters อย่างไรก็ตามดัชนีชี้วัดที่นักวิชาการพยายามสร้างขึ้นมาเหล่านี้ก็เพื่อจัดลาดับคุณภาพของวารสาร เท่านั้น แต่ยังขาดความสมบูรณ์และมีช่องโหว่อยู่มากฉะนั้นจึงไม่ควรไปยึดติดมากจนเกินไป
|