หัวข้อการแลกเปลี่ยนของกลุ่ม

ผลจากการวิเคราะห์และประเมินสภาพปัญหาการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ และทรัพยาการการเรียนรู้ของสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวได้มาแล้วในตอนต้น ทำให้กลุ่มความรู้: เส้นผมบังภูเขา สรุปวัตถุประสงค์หลักในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มได้ 2 ประการคือ
           1) ขจัดปัญหาในการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์
           2) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์
กลุ่มความรู้ฯ กำหนดหัวข้อ (Theme) ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยตั้งคำศัพท์เฉพาะขึ้นมาใช้เรียกหัวข้อ คือคำว่า “ว้าว!” และให้เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “WoW” เนื่องจากเห็นว่าเป็นคำที่ให้ความรู้สึกเชิงบวก เพราะเป็นเสียงอุทานที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลรู้สึกว่าตนเองได้ค้นพบ ได้รู้จัก ได้เรียนรู้ หรือได้ประสบพบเห็นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่พบว่าสิ่งนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่มีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ (Little things mean a lot) จึงเกิดความรู้สึกประทับใจ ประหลาดใจ หรือสะเทือนใจ จนต้องร้องอุทานออกมาว่า “ว้าว!”
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ WoW มีการจัดความรู้เป็น 5 กลุ่มดังนี้คือ


WoW#1: จิตคารวะ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างถ่อมตัว ด้วยการเล่าเรื่องการขจัดปัญหาหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคอมพิวเตอร์ที่ตนเรียนรู้ มาจากผู้อื่น และยกย่องให้เกียรติผู้ที่ให้ความรู้นั้นๆ แก่ตน


WoW#2: จิตนวัตกรรม เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างภูมิใจในตนเอง ด้วยการเล่าเรื่องปัญหาการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นแล้ว สมาชิกสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง หรือค้นพบเทคนิคดีดีบางอย่างด้วยตนเอง


WoW#3: จิตกระจ่าง เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างคนรักการอ่าน ด้วยการเล่าเรื่องเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ที่อ่านจากแหล่งข้อมูลต่างๆ แล้วนำมาใช้ได้ผลดี ทำให้การทำงานของตนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

WoW#4: จิตวิวัฒน์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างผู้สร้างสรรค์ ด้วยการเล่าเรื่องเทคนิควิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ตนเองมีความเชี่ยวชาญ สามารถช่วยให้งานที่ทำอยู่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล


WoW#5: จิตสาธารณะ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างคนรักโลก รักเพื่อนมนุษย์ ด้วยการเล่าเรื่องเทคนิควิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ตนเองทำแล้ว สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมประหยัดทรัพยากร หรือช่วยให้คนอื่นๆ มีความสุข


ทั้งนี้ กลุ่มความรู้ฯ ได้จัดทำเอกสารสรุปหัวข้อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรียกว่า Theme for WoW (ดูภาคผนวก) เพื่อเตือนความจำแก่สมาชิก และใช้เป็นแนวทางในการจัดระบบข้อมูลความรู้ที่เกิดขึ้นในกลุ่ม โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับหมายเลข สมาชิกจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อใดก่อนก็ได้ และหัวข้อละหลายๆ เรื่องเล่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของสมาชิกผู้นั้น เพื่อให้การไหลเวียนขององค์ความรู้ในตัวสมาชิก แต่ละคนมีความเป็นอิสระ ไม่ถูกสกัดกั้นจากการตีกรอบ ซึ่งช่วยให้สมาชิกสามารถเล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหล
สำหรับวิธีการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยการเล่าเรื่องตามหัวข้อเหล่านี้ สมาชิกเห็นควรให้ใช้วิธีการเล่าเรื่องด้วยการเขียนเป็นหลัก ส่วนการเล่าเรื่องแบบเผชิญหน้าพร้อมกันทั้งกลุ่มนั้น จะกระทำตามโอกาสที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างสอดคล้องกับภาระงานประจำของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก