R บุคคล ชื่อ - สกุล อาจารย์ ดร.อารยา ทิพย์วงศ์ ตำแหน่ง อาจารย์ประจำ หน่วยงาน วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ |
|||||
Rชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice : CoP) (สายวิชาการ) |
|||||
หัวข้อการจัดการความรู้ (KM) |
|||||
องค์ความรู้ |
การเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติและระดับนานาชาติ |
เลขที่เอกสาร (ถ้ามี) |
- |
||
วันที่รายงาน |
17 กันยายน 2564 |
||||
ประเภท |
£ การจัดการเรียนการสอน R การวิจัย £ การพัฒนาการปฏิบัติงาน |
คณบดี/ผู้อำนวยการ |
หัวหน้าสำนักงาน/หัวหน้าฝ่าย |
จัดทำโดย |
|
ผศ.ดร.พรพรรณ วรสีหะ |
นายนพปฏล อินยาศรี |
อาจารย์ ดร.อารยา ทิพย์วงศ์ |
1. ความเป็นมาและเหตุผล/สภาพปัญหาและอุปสรรค (สรุปโดยย่อ)
วิทยาลัยฯมีแผนกลยุทธ์การพัฒนาวิทยาลัยฯมีการจัดทำแผนการจัดการความรู้เพื่อหาแนวทางการพัฒนาจัดการความรู้ของวิทยาลัยฯและได้ให้ความสำคัญกับการตีพิมพ์ผลงานบทความวิจัยหรือบทความวิชาการเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การสร้างเสริมทักษะด้านการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยหรือผลงานวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนบทความวิจัยและบทความวิชาการลงในวารสารที่มีคุณภาพอยู่ในฐานข้อมูลทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ
การเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือระดับนานาชาติ เป็นหนึ่งในผลงานวิชาการของอาจารย์ เป็นข้อมูลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าอาจารย์ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิชาการและการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลงานวิชาการที่มีคุณค่าสมควรส่งเสริมให้มีการเผยแพร่และนำไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงวิชาการและการแข่งขันของประเทศ ผลงานวิชาการอยู่ในรูปของบทความวิจัยหรือบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่ปรากฏในฐานข้อมูล TCI หรือ Scopus หรือตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษา ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2562 ผลงานได้รับการจดอนุสิทธิบัตรหรือสิทธิบัตร หรือเป็นผลงานทางวิชาการรับใช้สังคมที่ผ่านการประเมินตำแหน่งทางวิชาการแล้ว ผลงานวิจัยที่หน่วยงานหรือองค์ดรระดับชาติว่าจ้างให้ดำเนินการ ตำราหรือหนังสือที่ใช้ในการขอผลงานทางวิชาการและผ่านการพิจารณาตามเกณฑ์การขอตำแหน่งทางวิชาการแล้ว การเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือระดับนานาชาติ จึงเป็นองค์ความรู้สำคัญที่คณาจารย์ของวิทยาลัยได้หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยการเสาะแสวงหาองค์ความรู้จากประสบการณ์ตรง และความรู้ที่มีอยู่ในตัวบุคคลถ่ายทอดและสกัดออกมาเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติจริงให้เกิดบทความวิจัยหรือบทความวิชาการ เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพทางวิชาการและเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนต่อไป
2. วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมการตีพิมพ์ผลงานวิจัยให้ได้รับเผยแพร่ในวารสารระดับชาติและระดับนานาชาติ
3. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
3.1 สภาพการปฏิบัติงานเดิม
การเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์และเผยแพร่ในวารสารวิชาการในฐานข้อมูล TCI หรือ Scopus ยังมีจำนวนน้อย และอาจารย์ใหม่ขาดประสบการณ์การส่งบทความในวารสารวิชาการ
3.2 สภาพการปฏิบัติงานใหม่
วิทยาลัยฯ ได้แนวทาง/แนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นจากกระบวนการจัดการความรู้และมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารที่มีคุณภาพในฐานข้อมูล TCI และ Scopus เพิ่มมากขึ้น และอาจารย์มีผลงานวิจัยหรือบทความวิจัยที่ต้องการตีพิมพ์ และวารสารที่เลือกเผยแพร่บทความวิจัย/บทความวิชาการมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาของบทความนั้น
4. แนวคิด/ขั้นตอน/วิธีการ (สรุป)
R การลดขั้นตอน/ระยะเวลาการดำเนินงาน
£ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
£ พัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงาน
£ สร้างประโยชน์และความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ
5. ข้อควรระวัง (ถ้ามี)
การคัดเลือกบทความในวารสารระดับนานาชาติ จะต้องมีการตรวจสอบสถานะของวารสารอย่างละเอียด
6. เคล็ดลับ/เทคนิคพิเศษ (Tips and Tricks) (สรุปโดยย่อ)
จากการที่สมาชิก KM ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้เทคนิคและประสบการณ์การส่งบทความวิจัยหรือบทความวิชาการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติ ในส่วนของเทคนิคที่สำคัญและเป็นปัจจัยสนับสนุนในการสร้างบทความวิจัยหรือบทความวิชาการ คือ มีงาน (วิจัย) มีเวลา มีความอดทน รวมทั้งต้อง มีใจ (รักและสนใจในการเขียนบทความ) รวมถึงการมีเครือข่ายที่ปรึกษา ถือเป็นเทคนิคพิเศษที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนในการผลักดันให้ประสบความสำเร็จในการส่งบทความวิจัยหรือบทความวิชาการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น
7. ผลของการดำเนินงาน (Output) (สรุปโดยย่อ)
ได้รับองค์ความรู้และเทคนิคเรื่องการเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ทำให้อาจารย์เกิดความมั่นใจในการส่งบทความวิจัยในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลเพิ่มขึ้น
8. ผลลัพธ์ของการดำเนินงาน (Outcome) (สรุปโดยย่อ)
วิทยาลัยฯ ได้แนวทาง/แนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นจากกระบวนการจัดการความรู้และมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารที่มีคุณภาพในฐานข้อมูล TCI และ Scopus เพิ่มมากขึ้น
9. ประโยชน์ที่ได้รับ (สรุปโดยย่อ)
1. อาจารย์รุ่นใหม่หรืออาจารย์ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การส่งบทความวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร มีความเข้าใจในขั้นตอนและสามารถนำองค์ความรู้และเทคนิคที่ได้มาใช้ในการเขียนบทความวิจัยส่งวารสารเพื่อตีพิมพ์
2. วิทยาลัยฯ มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารที่มีคุณภาพในฐานข้อมูล TCI และ Scopus เพิ่มมากขึ้น
10. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ (สรุปโดยย่อ)
ความร่วมมือของคณาจารย์และเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละคน และการสร้างแรงบันดาลใจให้อาจารย์เขียนบทความวิจัย
11. แนวทางการพัฒนาในอนาคต (สรุปโดยย่อ)
วิทยาลัยฯ ส่งเสริมและให้การสนับสนุนความเชี่ยวชาญในงานวิจัยของอาจารย์ เพื่อตีพิมพ์ในระดับที่สูงขึ้น หรือขอตำแหน่งทางวิชาการ และสร้างแรงจูงใจอาจารย์ด้วยการเผยแพร่ชื่นชมอาจารย์ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงวารสารทั้งระดับชาติและนานาชาติผ่านเว็บไซต์วิทยาลัย