ประเทศไทยจัดได้ว่าเป็นเมืองที่มีผลไม้กินตลอดปี ไม่ว่าจะเป็น เงาะ ลำไย ส้ม กล้วย ฯลฯ และยิ่งเดี๋ยวนี้เรานำเข้าผลไม้จากต่างประเทศเข้ามาด้วย จะยิ่งทำให้ประเทศเราอุดมไปด้วยผลไม้นานาชนิด แถมบางชนิดหน้าตาแปลกๆ เพราะเข้ามาจากต่างประเทศ ผลไม้ที่นำเข้ามานั้น จะมีลักษณะเด่นที่ดูแปลกตาคนไทย
จนบางครั้งคนที่เพิ่งเห็นก็จะคิดว่า "เอ๊ะ มันอะไรกันเนี่ย" หรือ "หน้าตาดูไม่น่ากินเลย จะกินได้ไหม" ทำให้หลายคนไม่กล้าลอง แต่แม้ว่าผลไม้นอกจะมีหน้าตาที่ดูแปลกและสีสันไม่น่ามองเท่าไรนัก แต่ผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยคุณค่าและประโยชน์ที่คาดไม่ถึง จะมีผลไม้อะไรบ้างเราลองมาติดตามดูกันได้เลย...
แก้วมังกร (Dragon Fruit)
แก้วมังกร เป็นไม้จำพวกแคนตัส (ตะบองเพชร) เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาใต้ ส่วนไทยนำเข้ามาจากเวียดนาม ที่ได้ชื่อว่า แก้วมังกรนั้น เพราะผลมีลักษณะคล้ายลูกแก้ว อยู่กึ่งกลางระหว่างกิ่ง 2 กิ่ง (คล้ายมังกรกำลังเฝ้าลูกแก้ว) พันธุ์นี้จะมีเนื้อสีขาว ส่วนพันธุ์ที่เนื้อสีแดงจะเป็นสายพันธุ์มาจากไต้หวัน พืชจำพวกกระบองเพชรอย่างแก้วมังกร จะมีสารมิวซิเลจ (Mucilage) จำพวกโปลีแซคคาไรด์เชิงซ้อนอยู่มาก ซึ่งจะช่วยควบคุมน้ำตาลกลูโคสในผู้ที่เป็นเบาหวาน โดยไม่พึ่งอินซูลินและสามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และ LDL คอเลสเตอรอลได้
นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มธาตุเหล็ก บรรเทาอาการเลือดจาง และยังมีสรรพคุณในการป้องกันโรคหัวใจ ความดันเลือด ตับ เบาหวาน มะเร็งลำไส้ และต่อมลูกหมาก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ
อโวคาโด (Avocado)
อโวคาโด มีบ้านเกิดอยู่ในแม็กซิโก เป็นผลไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในประเทศเขตร้อนหรือกึ่งร้อน ซึ่งมีปลูกในไทยมานานแล้ว นำเข้ามาโดยหมอสอนศาสนาแต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก เพราะรสชาติไม่เป็นที่คุ้นลิ้นคนไทย นอกจากนี้หลายคนยังคิดว่าอโวคาโดมีไขมันและคอเลสเตอรอลมาก แต่จริงๆ แล้ว ไขมันในอโวคาโดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนน้ำมันมะกอก ทั้งยังมีวิตามิน อี สูง ทำให้มีสรรพคุณในการบำรุงผิว
กีวี (Kiwi)
กีวี ผลไม้หน้าตาประหลาด สีน้ำตาล มีขน มองอย่างไรก็ไม่เห็นจะน่ากินตรงไหน กีวีมีถิ่นเกิดอยู่ที่เมืองจีน แต่เป็นที่นิยมที่นิวซีแลนด์ กีวี มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 2 เท่า กากใยก็มากกว่าแอปเปิ้ล นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปแตสเซียม จึงมีส่วนช่วยลดความดันเลือด ลดความเครียดและความอ่อนเพลีย ทั้งยังช่วยให้ระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นด้วย
ลูกพรุน, ลูกพลับ และ ลูกไหน (Prun, Plub & Plum)
หลายคนคงสงสัยว่า ผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้ ต่างกันอย่างไร ความจริงแล้ว ผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้ คือ ผลไม้ชนิดเดียวกัน เพียงแต่ลูกพรุนเป็นการนำลูกพลับมาตากแห้ง ส่วนลูกไหนเป็นชื่อที่คนจีนเรียกลูกพลับ ประโยชน์ของลูกพรุนนี้มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก อุดมไปด้วยไฟเบอร์ แมกนีเซียม เหล็ก โปแตสเซียม และวิตามิน บี สาวๆ ที่ต้องการลดความอ้วน กินลูกพรุนเยอะๆ จะดี เพราะลูกพรุนมีไขมันต่ำ แคลอรี่น้อย แถมเป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย
เบอร์รี่ (Berry)
เบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ว่าจะเป็นสตอร์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ จัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน ซี สูง นอกจากนี้จะมีโปรแตสเซียม และเส้นใยอาหารสูงด้วย
- แบล็คเบอร์รี่ มีโฟโตเคมีคอล ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและช่วยในเรื่องการขับถ่าย
- บลูเบอร์รี่ ช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ราสเบอร์รี่ มีใยอาหาร วิตามินซี, เค และยังมีแมงกานีสที่ช่วยการทำงานของปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
ทับทิม (Punica/Stone Apple)
ทับทิม เป็นผลไม้ขนาดเล็ก นิยมปลูกเป็นไม้มงคลหรือประดับเพื่อความสวยงามมากกว่าจะนำไปใช้ประโยชน์เป็นร่มเงา ทับทิมนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดอก ใบ ราก และผลยังอุดมไปด้วยโปแตสเซียม วิตามินซี และวิตามินบี๖ ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ให้อยู่ในรูปที่ร่างกายต้องการและนำไปใช้ประโยชน์ได้ จึงทำให้ทับทิม มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ท้องร่วง ขับพยาธิ แก้ร้อนใน แก้ไข้ตัวร้อน บรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหาร แก้ริดสีดวงทวาร
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นยาบำรุงเลือดได้ ด้วยความที่ทับทิมมีรสหวานอมเปรี้ยว จึงทำให้อุดมไปด้วยวิตามินซี จึงช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้
กระทกรก / เสาวรส (Passion Fruit)
กระทกรก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เสาวรส เป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา และผิวพรรณ เนื่องจากมีวิตามินเอ สูง ทั้งยังช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ลดไขมันในเส้นเลือด และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ในเสาวรสนั้นมีวิตามินซี สูง คือ 39.1 มก./100 มก. ซึ่งมีมากกว่ามะนาวเสียอีก
มะเม่า (Mamao)
มะเม่า เป็นผลไม้สมุนไพร สายพันธุ์เดียวกับเบอร์รี่ มีบ้านเกิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย เป็นพืชที่นิยมมาทำเป็นไวน์ผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่ต่างชาตินิยมเป็นอย่างมาก เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารมาก เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินซี, บี1, บี2 และวิตามิน อี ทั้งยังให้แคลเซียมและธาตุเหล็กด้วย มีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ บำรุงไต แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้มดลูกอักเสบบวมช้ำ ขับเลือดและน้ำคาวปลา