เทคนิคการเขียนบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ : คณะวิทยาศาสตร์

1. เทคนิคการเขียนบทความวิชาการ
      1.1 ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่จะต้องเป็นผลงานที่ยังไม่เคยได้รับตีพิมพ์เผยแพร่มาแล้วในวารสารอื่น ๆ
      1.2 ผลงานวิจัยที่สามารถจะลงตีพิมพ์เผยแพร่ได้นั้น จะต้องสามารถตอบคำถามหรือโจทย์ที่ผู้วิจัยตั้งไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจะต้องมีผลการทดลองต่าง ๆ มาสนับสนุนคำตอบนั้น ๆ มีการแสดงข้อมูลที่ชัดเจนไม่คลุมเครือ ผลงานวิจัยที่ลงตีพิมพ์ ส่วนมากอยู่ใน 2 รูปแบบ คือ short communication และ full paper
2. เกณฑ์การพิจารณาวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
       2.1 มี impact factor
       2.2 เป็นวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
       2.3 สอดคล้องตามเกณฑ์ที่ สกอ. กำหนด
3. เกณฑ์การคุณภาพวารสารที่หน่วยงานในประเทศไทยใช้
        3.1 วารสารที่ได้รับการยอมรับจาก สกอ.
        3.2 วารสารที่ได้รับการยอมรับจาก สมศ. มีค่าน้ำหนัก 0.75
        3.3 วารสารที่ได้รับการยอมรับจาก สกว.
        3.4 วารสารที่ปรากฏในฐานข้อมูลการจัดลำดับ SJR
        3.5 วารสารที่ปรากฏในฐานข้อมูล ISI มีค่าน้ำหนัก 1
4. การส่งบทความเพื่อตีพิมพ์
        ขั้นที่ 1: การเลือกวารสารที่เหมาะสม
        ขั้นที่ 2 : การเขียนบทความ (Writing a manuscript) ซึ่งในการบทความจะประกอบด้วย
                 - ชื่อเรื่อง (Title)
                  - บทคัดย่อ (Abstract)
                  - คำนำ (Introduction)
                  - อุปกรณ์และวิธีการทดลอง (Materials and Methods)
                  - ผลการทดลอง (Results)
                  - วิจารณ์ผลการทดลอง (Discussion)
                  - สรุปผลการทดลอง (Conclusion)
                  - คำขอบคุณ (Acknowledgement)
                  - เอกสารอ้างอิง (References)
                  - ภาคผนวก (Appendix)
5. แนวทางการเขียนบทความ
        5.1 การตั้งชื่อเรื่องควร อ่านแล้วรู้เรื่องว่าในบทความคืออะไร มีความกระชับและน่าสนใจ
        5.2 การเขียนบทคัดย่อ เป็นส่วนที่สำคัญมาก ควรจะเขียนเป็นลำดับสุดท้าย และวัตถุประสงค์ ขอบเขตของงาน วิธีดำเนินงานวิจัยแบบรวบรัด ผลการทดลอง เป็นองค์ประกอบ
        5.3 การเขียนบทนำ ควรจะเขียนปัญหาและความสำคัญ สาเหตุของปัญหา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลที่คาดว่าจะได้รับหรือประโยชน์ และปิดท้ายด้วยวัตถุประสงค์การทดลอง
        5.4 การเขียนวิธีการทดลอง เป็นส่วนที่เขียนง่ายที่สุด ควรเขียนเป็นส่วนแรก
        5.5 การเขียนผลการทดลองและวิจารณ์ผล ให้เขียนเป็นเรื่องราวให้เข้าใจง่าย และแสดงให้เห็นถึงเหตุและผลที่ได้จากการวิจัย ชี้ให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ผลตอบคำถามหรือตอบวัตถุประสงค์การทดลองได้หรือไม่ ควรจะอธิบายเพิ่มเติม
        5.6 การเขียนสรุปผลการทดลอง ควรเขียนว่างานนี้บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร และข้อเสนอแนะในการพัฒนาต่อไป ให้สั้นแต่ครอบคลุบเรื่องทั้งหมด
        5.7 การเขียนเอกสารอ้างอิง ต้องตรวจสอบรูปแบบที่กำหนดกับวารสารที่จะส่งไปตีพิมพ์ เนื่องจากมีความแตกต่างกัน
6. ปัญหาที่พบบ่อยๆ
         6.1 การใช้ภาษาไม่ถูกต้อง อ่านไม่รู้เรื่อง ควรมีการแก้ไขให้ถูกต้อง
         6.2 การทบทวนวรรณกรรมไม่เพียงพอ
         6.3 ผลการศึกษาไม่สมบูรณ์ หรือ การแปลผลไม่ถูกต้อง
         6.4 สรุปผลการศึกษาไม่ตรงตามความจริง 
7. งานประชุมวิชาการในประเทศและต่างประเทศ สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่
          7.1 http://www.conferenceinthai.com/
          7.2 http://www.conferencealerts.com/
          7.3 http://www.waset.org/
          7.4 อื่นๆ
8. แหล่งทุนสนับสนุนงานวิจัย
         8.1 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
         8.2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
         8.3 สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
         8.4 สำนักงบประมาณ
         8.5 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
         8.6 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
         8.7 กรมควบคุมมลพิษ
         8.8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
         8.9 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท)
         8.10 สำนักงานนโยบายและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
         8.11 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
         8.12 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
         8.13 สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
         8.14 เครือข่ายกาญจนาภิเษก  
                8.15อื่นๆ